แผ่นดินไหวล่าสุด ทำการซื้อขายบ้าน คอนโดชะลอตัว?

Last updated |
87 จำนวนผู้เข้าชม
อสังหาฯ ทรุดหนัก! แผ่นดินไหวล่าสุดทำให้การซื้อ-ขายบ้านและคอนโดชะลอตัว
87 จำนวนผู้เข้าชม
เหตุการณ์แผ่นดินไหวล่าสุดที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย ได้สร้างความกังวลให้กับประชาชนและนักลงทุน โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ทั้งผู้ซื้อ-ขายบ้าน คอนโด และอาคารพาณิชย์ เมื่อเกิดแผ่นดินไหว ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคย่อมลดลง ผู้ซื้ออาจลังเลในการตัดสินใจซื้อบ้านหรือคอนโดในพื้นที่เสี่ยงแผ่นดินไหว

สารบัญ

อสังหาฯ ทรุดหนัก! แผ่นดินไหวล่าสุดทำให้การซื้อ-ขายบ้านและคอนโดชะลอตัว?

📉 ผลกระทบของแผ่นดินไหวต่อภาคอสังหาริมทรัพย์

เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย ได้สร้างความกังวลให้กับประชาชนและนักลงทุน โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ทั้งผู้ซื้อ-ขายบ้าน คอนโด และอาคารพาณิชย์

เมื่อเกิดแผ่นดินไหว ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคย่อมลดลง ผู้ซื้ออาจลังเลในการตัดสินใจซื้อบ้านหรือคอนโดในพื้นที่เสี่ยงแผ่นดินไหว ขณะที่ผู้พัฒนาโครงการอาจต้องเผชิญกับต้นทุนการก่อสร้างที่สูงขึ้นจากมาตรฐานความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้น

ในบทความนี้ เราจะมาวิเคราะห์กันว่า แผ่นดินไหวส่งผลกระทบต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างไร และตลาดจะปรับตัวอย่างไรในอนาคต

📌 3 ผลกระทบหลักจากแผ่นดินไหวต่ออสังหาริมทรัพย์

1️⃣ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลง → การซื้อ–ขายบ้านและคอนโดชะลอตัว

เมื่อเกิดแผ่นดินไหว ผู้ซื้อจะมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของบ้านและคอนโดมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง

ผลกระทบที่เกิดขึ้น:
✔ ผู้ซื้อบ้านอาจชะลอการตัดสินใจซื้อ หรือมองหาทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า
✔ ตลาดคอนโดอาจได้รับผลกระทบหนัก เนื่องจากอาคารสูงมีความเสี่ยงมากกว่าบ้านแนวราบ
✔ โครงการใหม่อาจขายยากขึ้น หากอยู่ในพื้นที่เสี่ยงแผ่นดินไหว

📉 สถิติที่น่าสนใจ:
จากข้อมูลของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเกิดแผ่นดินไหวบ่อย พบว่า หลังจากเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ ราคาบ้านและคอนโดในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจะลดลงเฉลี่ย 10-20% ภายในปีแรก เนื่องจากความกังวลของผู้ซื้อ

2️⃣ ต้นทุนก่อสร้างเพิ่มขึ้น → ผู้พัฒนาต้องปรับตัว

เมื่อเกิดแผ่นดินไหว ภาครัฐมักจะออกมาตรฐานด้านความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้น เพื่อป้องกันอาคารถล่มในอนาคต สิ่งนี้ส่งผลให้ต้นทุนก่อสร้างสูงขึ้น

ผลกระทบที่เกิดขึ้น:
✔ ผู้พัฒนาโครงการต้องลงทุนมากขึ้นในการเสริมโครงสร้างต้านแผ่นดินไหว
✔ ราคาขายบ้านและคอนโดอาจสูงขึ้นจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
✔ บางโครงการอาจถูกเลื่อนออกไป หรือยกเลิกแผนการก่อสร้าง

💰 ตัวอย่างมาตรฐานความปลอดภัยที่อาจถูกบังคับใช้เพิ่มเติม:

  • ฐานรากและเสาเข็มต้องแข็งแรงขึ้น
  • โครงสร้างต้องใช้เหล็กและคอนกรีตพิเศษที่ทนต่อแรงสั่นสะเทือน
  • ต้องมีระบบ Damper หรือ Shock Absorber ในอาคารสูง

3️⃣ มูลค่าทรัพย์สินในพื้นที่เสี่ยงลดลง → นักลงทุนชะลอการลงทุน

พื้นที่ที่เคยได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว มักมีมูลค่าทรัพย์สินลดลง เนื่องจากความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและความต้องการซื้อลดลง

ผลกระทบที่เกิดขึ้น:
✔ นักลงทุนอสังหาฯ อาจชะลอการลงทุนในพื้นที่เสี่ยง
✔ เจ้าของบ้านที่ต้องการขาย อาจต้องลดราคาลงเพื่อดึงดูดผู้ซื้อ
✔ ตลาดเช่าอาจเติบโตขึ้น เพราะผู้ซื้อบางส่วนเลือกเช่าแทนการซื้อ

📌 พื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง อาจต้องมีมาตรการจูงใจจากภาครัฐ เช่น:

  • ลดภาษีอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่เสี่ยง
  • สนับสนุนสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยต่ำสำหรับโครงการที่ได้มาตรฐานแผ่นดินไหว

🏡 อสังหาริมทรัพย์จะปรับตัวอย่างไรในอนาคต?

แม้ว่าแผ่นดินไหวจะส่งผลกระทบต่อภาคอสังหาฯ ในระยะสั้น แต่ในระยะยาว ตลาดสามารถปรับตัวได้ โดยโครงการอสังหาฯ ต้องให้ความสำคัญกับมาตรฐานความปลอดภัยมากขึ้น

1️⃣ ผู้พัฒนาโครงการต้องออกแบบให้แข็งแรงขึ้น

✅ ใช้เทคโนโลยีต้านแผ่นดินไหว เช่น ฐานรากแบบ Base Isolation, Shock Absorber
✅ ใช้วัสดุก่อสร้างที่สามารถรับแรงสั่นสะเทือนได้ดี
✅ มีการตรวจสอบโครงสร้างอย่างละเอียดก่อนส่งมอบ

2️⃣ ผู้ซื้อบ้าน-คอนโด ต้องเลือกโครงการที่มีมาตรฐาน

✅ ตรวจสอบว่าโครงการสร้างตามมาตรฐานต้านแผ่นดินไหวหรือไม่
✅ หลีกเลี่ยงการซื้อบ้านหรือคอนโดในพื้นที่ที่เสี่ยงสูง
✅ ตรวจสอบประวัติของพื้นที่ว่ามีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นบ่อยแค่ไหน

3️⃣ รัฐบาลควรมีมาตรการรองรับ

✅ กำหนดมาตรฐานต้านแผ่นดินไหวสำหรับอาคารใหม่ทุกประเภท
✅ ออกกฎหมายให้บ้านและคอนโดต้องมีประกันภัยแผ่นดินไหว
✅ ให้เงินสนับสนุนสำหรับการเสริมโครงสร้างอาคารเก่า

📢 สรุป: อสังหาฯ จะฟื้นตัวได้หรือไม่?

📌 แม้ว่าแผ่นดินไหวจะทำให้ตลาดอสังหาฯ ชะลอตัวชั่วคราว แต่ โครงการที่ออกแบบตามมาตรฐานต้านแผ่นดินไหวจะได้รับความเชื่อมั่นมากขึ้น และอาจมีมูลค่าเพิ่มขึ้นในระยะยาว

📌 ผู้ซื้อควรเลือกซื้อโครงการที่ปลอดภัยและมีโครงสร้างที่ได้มาตรฐาน เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ

📌 นักลงทุนและผู้พัฒนาโครงการต้องปรับตัว โดยเน้นโครงสร้างที่แข็งแรงขึ้น และบริหารความเสี่ยงให้รอบคอบ

หากภาครัฐและภาคเอกชนสามารถร่วมมือกันพัฒนาโครงสร้างต้านแผ่นดินไหวให้แข็งแกร่งขึ้น อสังหาริมทรัพย์จะสามารถฟื้นตัวและเติบโตได้อย่างมั่นคงในอนาคต

บทความแนะนำ

สนใจคอร์สเรียนอสังหาหรือปรึกษาด้านการลงทุนอสังหา
สถาบันสอนอสังหา Future Developer Academy