สารบัญ
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2025
1. ความต้องการที่อยู่อาศัยในเมืองใหญ่ยังคงเติบโต แต่ปรับตัวตามพฤติกรรมใหม่
ในปี 2025 การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและการกลับมาของนักลงทุนต่างชาติจะช่วยกระตุ้นความต้องการในตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษเช่น EEC (Eastern Economic Corridor) อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคในยุคนี้มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป เช่น:
- ต้องการพื้นที่ใช้สอยที่ตอบโจทย์การทำงานที่บ้าน (Work from Home)
- เน้นสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ เช่น การใช้พลังงานสะอาดและการออกแบบพื้นที่สีเขียว
- ความต้องการที่อยู่อาศัยแบบ Mixed-Use ที่สามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ได้ในที่เดียว
แนวโน้ม: คอนโดมิเนียมขนาดเล็กถึงกลางที่มีพื้นที่ Co-Working Space และเทคโนโลยี Smart Home จะได้รับความนิยม
2. ตลาดบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมในเขตชานเมือง
เนื่องจากการจราจรที่ติดขัดในเมืองใหญ่และพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปหลังการแพร่ระบาดของ COVID-19 ผู้บริโภคบางกลุ่มหันมามองหาบ้านในเขตชานเมืองหรือพื้นที่ใกล้เคียงที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น รถไฟฟ้าหรือถนนสายหลักที่เชื่อมต่อเมือง
- ราคาที่ดินในชานเมืองมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานใหม่
- ผู้บริโภคมองหาพื้นที่ที่ให้ความสงบและเป็นส่วนตัวมากขึ้น
แนวโน้ม: โครงการบ้านเดี่ยวระดับกลาง-สูง และทาวน์โฮมที่ราคาไม่เกิน 3-5 ล้านบาท จะเป็นที่ต้องการในตลาด
3. การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่า: กลุ่มนักลงทุนยังมีความสนใจ
อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน เช่น อพาร์ทเมนต์ อาคารพาณิชย์ หรือพื้นที่เชิงพาณิชย์ยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุน โดยเฉพาะในทำเลที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจพิเศษ เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ และ EEC
- การกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2025 คาดว่าจะช่วยกระตุ้นตลาดเช่า โดยเฉพาะกลุ่ม Luxury และ Premium Rental
- ความต้องการพื้นที่สำนักงานปรับลดลงเล็กน้อย เนื่องจากเทรนด์การทำงานแบบ Hybrid Working
แนวโน้ม: การพัฒนาโครงการ Serviced Apartment และ Luxury Rental ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวและเมืองใหญ่ยังคงเติบโต
4. เทคโนโลยีและนวัตกรรมในอสังหาริมทรัพย์
ปี 2025 จะเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้านการนำเทคโนโลยีมาใช้ในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ เช่น:
- PropTech: การนำระบบ AI และ Big Data มาใช้ในการวิเคราะห์และประเมินความต้องการของลูกค้า
- การใช้ Blockchain ในการทำธุรกรรม เช่น Smart Contracts เพื่อเพิ่มความโปร่งใสและลดต้นทุน
- Virtual Tours และ Digital Twin ช่วยให้ลูกค้าสามารถสำรวจโครงการผ่านออนไลน์ได้อย่างสะดวก
แนวโน้ม: ผู้ประกอบการที่นำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้จะได้เปรียบในการแข่งขัน
5. ความยั่งยืน (Sustainability) และอสังหาริมทรัพย์สีเขียว
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้น จะทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ต้องปรับตัวอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในเรื่องของ:
- การออกแบบอาคารที่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ (Green Building)
- การลดการใช้วัสดุที่ทำลายสิ่งแวดล้อม เช่น การนำวัสดุรีไซเคิลมาใช้
- การพัฒนาโครงการที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
แนวโน้ม: โครงการที่มีใบรับรองมาตรฐานอาคารสีเขียว (LEED, EDGE) จะได้รับความสนใจจากผู้บริโภคและนักลงทุนมากขึ้น
6. ความเสี่ยงและความท้าทายที่ต้องจับตา
แม้จะมีโอกาสเติบโตในหลายด้าน แต่ปี 2025 ยังมีความเสี่ยงสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องพิจารณา เช่น:
- การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก หากสงครามและความขัดแย้งทางการค้าเกิดขึ้น
- การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะส่งผลต่อความสามารถในการกู้เงินและการซื้ออสังหาริมทรัพย์
- นโยบายของภาครัฐ เช่น การเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
แนวโน้ม: ผู้ประกอบการต้องปรับแผนการลงทุนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และเน้นการพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในระยะยาว
สรุป: การเตรียมตัวสู่ปี 2025
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2025 จะมีทั้งโอกาสและความท้าทาย ผู้ประกอบการที่ต้องการประสบความสำเร็จต้องมีความยืดหยุ่นและปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคและสถานการณ์เศรษฐกิจโลก การนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ รวมถึงการพัฒนาโครงการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จะช่วยสร้างความได้เปรียบและเพิ่มโอกาสในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว.
บทความแนะนำ
- แจกฟรี Checklist เอกสารการโอนกรรมสิทธิ์ ที่ต้องใช้ เมื่อซื้อบ้านและคอนโด
- ลงทุนคอนโด 10 ไอเดียแต่งคอนโด สไตล์มินิมอล สวย เรียบง่าย ลงตัว
- 6ขั้นตอน ทำยังไง! เทคนิคปล่อยเช่าคอนโด
- ซื้อบ้านหรือคอนโด เพื่อลงทุนอสังหา แบบไหนคุ้มกว่ากัน
- ค่าโอนที่ดิน บ้าน คอนโด อสังหา คิดคำนวณอย่างไร?
- คอร์ส Online ลงทุนคอนโด Basic
- เตรียมตัวให้พร้อมในการกู้ซื้อบ้านและคอนโดไม่ใช่เรื่องยาก !!
สนใจคอร์สเรียนอสังหาหรือปรึกษาด้านการลงทุนอสังหา
สถาบันสอนอสังหา Future Developer Academy