การลงทุนอสังหาฯ ที่น่าสนใจสำหรับมือใหม่ในปี 2566
1. ลงทุนแบบเก็งกำไร
2. ลงทุนปล่อยเช่ารายเดือน
3. ลงทุนปล่อยเช่ารายวัน
4. ลงทุนกับกองทุนอสังหาริมทรัพย์
5. ลงทุนรีโนเวท เพิ่มมูลค่าบ้าน-คอนโดฯ
6. การลงทุนแบบจับเสือมือเปล่า
7. การลงทุนโดยเป็นผู้ประกอบการ
8. การลงทุนกับนักลงทุนรายใหญ่
1. ลงทุนแบบเก็งกำไร
เรียกว่าเป็นรูปแบบการลงทุนยอดนิยมของนักลงทุนมือใหม่ ที่ต้องการเริ่มต้นลงทุนอสังหาฯ ที่คิดจะแสวงหากำไรด้วยวิธีการขายใบจองคอนโด ด้วยเหตุผลใช้เงินลงทุนไม่เยอะ และได้ผลตอบแทนเร็ว ทั้งนี้เชื่อว่านักลงทุนหน้าใหม่ ยังไม่เคยเข้ามาในวงการลงทุนอสังหาฯ อาจจะมึนงงว่ารูปแบบการเก็งกำไรเช่นนี้คืออะไร ต้องทำอย่างไรบ้าง สรุปสาระสำคัญสั้นๆ มีดังนี้
• เป็นการลงทุนใบจองห้องชุด ในระยะเวลาอันสั้น หลังจากโครงการเปิดให้จองคอนโดวันแรก ส่วนใหญ่นิยมขายใบจองในระยะเวลาไม่เกิน 1 เดือน เพื่อไม่ต้องแบกรับภาระการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดที่ตนเองได้จองไว้
• เงินลงทุนในการซื้อใบจองอยู่ที่ 50,000 – 100,000 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละโครงการ
• ทำเลของโครงการคอนโด ที่เลือกซื้อใบจอง เพื่อให้ปล่อยง่าย และได้กำไรสูง มักอยู่ในย่านชุมชน ใกล้รถไฟฟ้า ใกล้แหล่งงาน ซึ่งมีความต้องการสูง
เทคนิคการลงทุน: รูปแบบการเก็งกำไรจากการลงทุนด้วยใบจอง จำเป็นต้องศึกษาเรื่องความต้องการของผู้ซื้อ รวมถึงจำนวนโครงการคอนโดที่ขายในย่านนั้นให้ดี รวมไปถึงเรื่องของทำเล เพื่อให้ปล่อยง่าย และได้กำไรสูง ทำเลต้องอยู่ในทำเลที่ดี ใกล้รถไฟฟ้า ใกล้แหล่งงาน ต้องเป็นทำเลที่มีศักยภาพ โครงการที่ลงทุนต้องเป็นโครงการที่มีชื่อเสียงมีประสบการณ์ ต้องเรียนรู้เรื่องวงรอบในการทำกำไร หมายความว่า ต้องรู้ช่วงเวลาของราคา เช่น ช่วงก่อนพรีเซลล์ หลังพรีเซลล์ 6 เดือน 1ปี ช่วงก่อสร้าง ช่วงสร้างเสร็จ ช่วงก่อนโอน และช่วงหลังโอน เป็นต้น แต่ละช่วงสามารถทำกำไรได้แตกต่างกัน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ขายใบจองได้เร็ว และไม่ขาดทุน
2. ลงทุนปล่อยเช่ารายเดือน
อีกหนึ่งประเภทของการลงทุนที่ได้รับความนิยมในวงการนักลงทุนอสังหาฯ เนื่องจากสามารถสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอ หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็นเสือนอนกินได้เลยทีเดียว ทั้งนี้การเป็นนักลงทุนประเภทนี้ เริ่มจากการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ เช่น บ้าน คอนโด อาคารพาณิชย์ ห้องเช่า หรือแม้แต่ที่ดิน เพื่อปล่อยเช่าเป็นรายเดือน อาจต้องมีเงินเย็น หรือเงินเก็บสักก้อนในการลงทุน เพื่อไม่ให้เป็นภาระในอนาคต โดยนักลงทุนสามารถใช้ความคิดสร้างสรรค์ตกแต่งห้อง หรืออสังหาฯ หรือรับฟังความต้องการจากผู้เช่า เพื่อเพิ่มมูลค่าให้อสังหาฯ ที่ปล่อยเช่าอีกทาง แต่หลักสำคัญของการลงทุนแบบปล่อยเช่านั้น คือ “ทำเลและกลุ่มเป้าหมายผู้เช่า” รายได้จากการปล่อยเช่าขึ้นอยู่กับทำเลและต้นทุนที่ลงทุนไป เช่น ถ้าได้ทรัพย์มาในราคาที่ถูก อยู่ในทำเลที่ดี ย่อมได้ค่าเช่าดี รายได้ต่อเดือนก็ย่อมสูงประมาณ 8-12% เลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ควรต่ำกว่าดอกเบี้ยเงินกู้ ในกรณีที่กู้เงินมาลงทุน
เทคนิคการลงทุน: แน่นอนว่าการเลือกอสังหาฯ เพื่อปล่อยรายเดือนจำเป็นต้องเลือกดูปัจจัยเรื่องทำเลที่ดีแล้ว ยังคงต้องพิจารณาความเหมาะสมของราคาอสังหาฯ และผลตอบแทนในการลงทุน (Yield) ที่เปรียบเทียบกับความเป็นไปได้ของการตั้งราคาค่าเช่า ที่สามารถจูงใจผู้เช่าได้ ยิ่งเป็นอสังหาฯ ทำเลดี สามารถตั้งราคาเช่าได้สูง ผลกำไรที่นักลงทุนจะได้ก็มากขึ้นด้วยเช่นกัน ทั้งนี้นักลงทุนยังจำเป็นต้องศึกษากฎหมายอสังหาฯ เกี่ยวกับการปล่อยเช่าอย่างรอบคอบ
3. ลงทุนปล่อยเช่ารายวัน
สำหรับการลงทุนอสังหาฯ รูปแบบนี้ มีความคล้ายคลึงกับประเภทที่ 2 คือนักลงทุนสามารถเป็นเสือนอนกินได้เช่นเดียวกัน แต่จะแตกต่างตรงที่รูปแบบของการปล่อยเช่ารายวัน นั้นจะเหมาะกับอสังหาฯ ที่มีทำเลที่ตั้งอยู่ในย่านยอดนิยมของนักท่องเที่ยว เช่น อารีย์ พญาไท หรือแม้แต่ในต่างจังหวัดอย่าง พัทยา และเชียงใหม่ เนื่องจากตั้งอยู่ในย่านที่มีความต้องการจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจำนวนมาก และมีผู้คนผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาตลอด ดังนั้นนักลงทุนอสังหาจึงสามารถใช้โอกาสนี้ในการตกแต่งอาคารพาณิชย์ บ้าน หรือแม้แต่คอนโด ให้กลายเป็น Hostel หรือ Airbnb ยอดนิยมของกลุ่มนักเดินทางในการค้นหาห้อง หรือบ้านพักสำหรับไปเยือนประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้ในราคาย่อมเยากว่าโรงแรม สิ่งสำคัญอยู่ที่ความคิดสร้างสรรค์ ประสบการณ์จากการท่องเที่ยวและเรียนรู้ความต้องการของลูกค้าที่มาพัก หาทำเลที่เหมาะสม
เทคนิคการลงทุน: นอกจากปัจจัยในเรื่องทำเลที่จำเป็นต่อการลงทุนปล่อยเช่าอสังหาฯ รายวันแล้ว ปัจจัยในเรื่องการตกแต่งก็เป็นหัวใจหลักสำคัญในการดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้เลือกเข้าพักด้วยเช่นกัน
4. ลงทุนกับกองทุนอสังหาริมทรัพย์
กองทุนอสังหาริมทรัพย์ คือ กองทุนรวมประเภทหนึ่ง เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งการลงทุนที่ช่วยลดความเสี่ยงได้ สำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่กลัวภาวะต้องเผชิญหน้ากับการขาดทุน อีกทั้งรูปแบบของการลงทุนกับกองทุนอสังหาฯนั้น สามารถลงมือทำได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก เหมาะกับนักลงทุนทุกเพศทุกวัย และสามารถลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง เพียงแค่มีเงินหลักพันก็สามารถซื้อกองทุนรวมอสังหาฯ ที่ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอในระยะยาวได้แล้ว แถมยังได้รับการบริหารจัดการเงินลงทุนแบบมืออาชีพ โดยจะมีผู้จัดการกองทุนทำหน้าที่คัดเลือกและลงทุนในอสังหาฯ หรือหลักทรัพย์ตามที่กฎหมายกำหนด
เทคนิคการลงทุน: ปัจจุบันกองทุนรวมอสังหาฯ หรือคำศัพท์ทางธุรกิจ ที่เรียกว่า Property Fund ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 6-10% พร้อมทางเลือกที่เปิดกว้างมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น อาคารสำนักงาน โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ เป็นต้น โดยหลังจากกองทุนอสังหาฯ บริหารและได้รับค่าเช่าจากการลงทุนแล้ว กองทุนอสังหาฯจะดำเนินการหักค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียมการบริหารก่อนนำรายได้แบ่งเป็นเงินปันผลให้กับนักลงทุน แม้จะเป็นการลงทุนที่สะดวก มือใหม่ก็ลงทุนได้ มีผู้จัดการกองทุนทำหน้าที่คัดเลือกและลงทุนให้ แต่ทั้งนี้ควรศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการเลือกกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ ทำเลที่ตั้ง อัตราส่วนผู้เช่า เงินปันผล สภาพคล่อง และธุรกิจที่ลงทุน โดยสามารถศึกษาได้จากหนังสือชี้ชวนของกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เจ้าหน้าที่ที่ปรึกษาการลงทุน และค้นหาข้อมูลกองทุนเพิ่มเติมในเว็บไซต์ของกองทุนนั้น ๆ
5. ลงทุนรีโนเวท เพิ่มมูลค่าบ้าน-คอนโดฯ
เป็นการลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ไม่ว่าจะเป็นบ้านมือสอง คอนโดมือสอง มาตกแต่งใหม่แล้วขายต่อ ช่วยเพิ่มมูลค่าบ้านและคอนโด ซึ่งรูปแบบการลงทุนนี้จะเน้นลงทุนต่ำแต่ได้ผลตอบแทนสูง โดยนักลงทุนบางกลุ่มเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์ จากการประมูลกรมบังคับคดี หรือทรัพย์สินรอการขายจากสถาบันการเงิน ที่มีราคาถูกกว่าท้องตลาด และมีทำเลที่ดีมารีโนเวทให้มีสภาพเหมือนใหม่ ตกแต่งให้สวยงาม เป็นสไตล์ต่างๆ ตามที่ตัวเองต้องการ ซึ่งรูปแบบการลงทุนนี้จะเน้นลงทุนต่ำ แต่ได้ผลตอบแทนสูง แล้วขายต่อในราคาที่เพิ่มขึ้น
เทคนิคการลงทุน: นักลงทุนบางคนเลือกที่จะซื้ออสังหาฯ มาตกแต่งจากการประมูลกรมบังคับคดี หรือทรัพย์สินรอการขายจากสถาบันการเงิน โดยอสังหาฯ นั้นไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือคอนโด มักอยู่ในทำเลที่ถือว่าพอใช้ โครงสร้างยังแข็งแรง แต่มีราคาถูกกว่าท้องตลาด
6. การลงทุนแบบจับเสือมือเปล่า
หรือการเป็นนายหน้านั่นเอง เป็นการลงทุนที่เป็นตัวเชื่อมโยง โดยการหาคนซื้อและคนขายที่มีความต้องการตรงกันให้มาเจอกันโดยผ่านตัวเราเอง เพียงแค่นี้ก็สามารถสร้างรายได้จากอสังหาริมทรัพย์ได้แล้ว ส่วนมากรายได้จากการเป็นนายหน้าอยู่ที่ 2-4% จากราคาขายและขึ้นอยู่กับการตกลงตามเงื่อนไขที่ได้ทำสัญญา หากขายบ้านราคา 20 ล้าน ได้ค่านายหน้า 3% ก็เป็นเงิน 600,000
เทคนิคการลงทุน: สิ่งสำคัญที่นายหน้าต้องมี คือ ความอดทน ขยัน ทักษะการเจรจา รอบรู้ในเรื่องอสังหาฯ ทำเลต่างๆ เป็นต้น
7. การลงทุนโดยเป็นผู้ประกอบการ
หลายคนที่เริ่มต้นลงทุนอสังหาริมทรัพย์มาได้ระดับหนึ่งพอรู้ลู่ทาง ก็อยากที่จะเป็นเจ้าของโครงการเสียเองเพราะผลตอบแทนที่ได้สูงกว่า 80-100% เลยทีเดียว จึงไม่แปลกที่นักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มต้นจากการลงทุนที่ดินแปลงเล็กๆ สร้างอาคาพาณิชย์ขาย สร้างห้องแถวขายเริ่มจาก 2-4 ห้องแล้วขยับขยายไปให้ใหญ่ขึ้น นักลงทุนบางคนฉลาดกว่านั้น คือ การใช้เงินตัวเองให้น้อยที่สุดโดยการติดต่อเจ้าของที่ดินทั้ง ๆ ที่ยังไม่ต้องลงทุนซื้อที่ดิน เสียเพียงค่าก่อสร้าง จากนั้นขายได้ก็แบ่งกำไรกันไป ก็นับเป็นอีกวิธีในการสร้างความร่ำรวยจากอสังหาริมทรัพย์
8. การลงทุนกับนักลงทุนรายใหญ่
สำหรับคนที่มีประสบการณ์ในการลงทุน มีมนุษย์สัมพันธ์ดี เก่งในการเจรจาต่อรอง มีคอนเนคชั่นมาก รู้จักนักลงทุนเยอะ เป็นคนมีเครดิต มีความคิดสร้างสรรค์และไอเดีย คุณสามารถเอาประสบการณ์แลกเงินได้ โดยคุณไม่ต้องลงทุนเลยแม้แต่บาทเดียว นับเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้คุณรวยแบบก้าวกระโดด เพียงแค่เรานำไอเดียที่มีเสนอขายแผนธุรกิจให้กับนักลงทุนรายใหญ่ที่มีเงินทุนได้ แต่คุณจะต้องมั่นใจว่าแผนโครงการนั้นๆ จะสร้างผลตอบแทนอย่างคุ้มค่าให้นายทุน สิ่งสำคัญ คือ คุณต้องรู้วิธีการเขียนแผน งบการเงิน (NPV, IRR) มีประสบการณ์ในการลงทุนมาระดับหนึ่ง รู้เรื่องทำเล กลุ่มเป้าหมาย และเรื่องอื่นๆ ที่สำคัญต่อการทำโครงการ จึงจะทำให้แผนนั้นน่าสนใจต่อกลุ่มนายทุน
บทความแนะนำ
- 12 กลยุทธ์ในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์แบบขั้นเทพ
- 10 คำศัพท์ ควรรู้ สำหรับนักลงทุนอสังหามือใหม่
- ทำไมชาวจีนชอบลงทุนกับ “อสังหาริมทรัพย์”
สนใจคอร์สเรียนอสังหาหรือปรึกษาด้านการลงทุนอสังหา
สถาบันสอนอสังหา Future Developer Academy